สรรพคุณทางยาที่แท้จริงของพืชกัญชา

รู้ให้จริง…สรรพคุณทางยาที่แท้จริงของพืชกัญชา

การปลดล็อกกัญชามีจุดประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อการดูแลสุขภาพ และเพื่อสร้างเป็นพืชเศรษฐกิจที่จะสร้างรายได้และมูลค่าให้แก่ประเทศ ดังนั้นแล้วเราควรมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสรรพคุณทางยาของพืชชนิดนี้อย่างแท้จริง ว่าสามารถรักษาหรือบรรเทาอาการอะไรได้บ้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้ และเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกาย บทความนี้จึงชวนทุกคนมาร่วมตรวจสอบถึงสรรพคุณทางยา และลองสำรวจดูว่าคุณใช้พืชชนิดนี้ได้ถูกต้องแล้วหรือยัง

6 สรรพคุณทางยาของพืชกัญชา ที่คนทั่วไปควรรู้ก่อนนำไปใช้

6 สรรพคุณทางยาของพืชกัญชา ที่คนทั่วไปควรรู้ก่อนนำไปใช้

กัญชานั้นยังเรียกได้ไม่เต็มที่นักว่าเป็นพืชเสรี เพราะยังมีข้อกำหนดบางข้อที่งดและห้ามใช้ เช่น ห้ามสตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตรใช้พืชชนิดนี้, ห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเกี่ยวข้องกับพืชชนิดนี้, ห้ามนำไปสูบในที่สาธารณะ และห้ามใช้สารสกัดที่มีค่า THC สูงเกินกว่า 0.2% เป็นต้น ส่วนสรรพคุณทางยาที่มีงานวิจัยรับรองว่าสามารถบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้มีดังต่อไปนี้

1. แก้ไขอาการคลื่นไส้อาเจียน เนื่องจากการรับเคมีบำบัด
สาร Nabilone และ Dronabinol คือสารสังเคราะห์ที่ได้จากอนุพันธ์ของสาร THC ในกัญชา สามารถใช้แก้ไขอาการคลื่นไส้อาเจียนของผู้ป่วยได้ต้องรับเคมีบำบัดได้ดี และจากงานวิจัยทั้งจากประเทศแคนาดาและประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า สาร 2 ชนิดใช้ได้ผลดีกว่ายาชนิดอื่นที่เคยมี

2. สาร Dronabinol ช่วยเพิ่มความอยากอาหาร
ผลการวิจัยจากประเทศแคนาดาระบุว่า นอกจากสาร THC แล้ว สารสังเคราะห์จากอนุพันธ์สาร THC อย่าง Dronabinol ช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ป่วยโรคเอดส์มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น

3. แก้ไขอาการปวดที่เกิดแบบเฉียบพลัน และอาการปวดเรื้อรัง
สาร THC มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทและสมองโดยตรง ดังนั้นจึงสามารถใช้เพื่อแก้ไขอาการปวดได้ ทั้งการปวดแบบเฉียบพลันและปวดแบบเรื้อรัง โดยแพทย์จ่ายยาให้แก่ผู้ป่วยในปริมาณ 2.5-2.7 มิลลิกรัม เพื่อรักษาอาการปวดข้อที่ยาแก้ปวดทั่วไปรักษาไม่ได้ จะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการเบาสบาย และนอนหลับสนิทได้นานขึ้น ส่วนอาการปวดเรื้อรังด้วยโรคมะเร็งยังคงใช้เพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น เนื่องยังไม่มีบทสรุปที่แน่ชัดว่าสามารถบรรเทาอาการปวดให้แก่มะเร็งชนิดใดได้บ้าง

4. ควบคุมอาการลมชัก
ยากันชักสำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก ได้ถูกนำไปใช้ร่วมกับสาร CBD จากพืชกัญชาในปริมาณ 200-300 มิลลิกรัม/วัน และมีงานวิจัยรับรองว่า จากการทดลองกับผู้ป่วยพบว่าประมาณ 37% ของผู้ป่วยไม่เกิดอาการชักเลยตลอด 18 สัปดาห์ และผู้ป่วยอีกประมาณ 37% มีอาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นผลได้ชัด ส่วนผลข้างเคียงจากการใช้สาร CBD คือผู้ป่วยจะมีอาการง่วงนอน

5. ลดความดันในตา
สำหรับผู้ป่วยด้วยโรคต้อหิน ที่มีสาเหตุมาจากขั้วประสาทตาเสื่อมและมีความดันในตาสูง แพทย์จะวินิจฉัยให้ใช้สารสกัด THC ในปริมาณ 0.01-0.1% เพื่อลดความดันในตาลง เพื่อป้องกันการลุกลามของโรค ซึ่งการใช้ยาจะออกฤทธิ์ได้ประมาณไม่เกิน 3 ชั่วโมง ผู้ป่วยจึงต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ตลอดการใช้ยา

6. ช่วยลดอาการของผู้ป่วยโรค MS
MS (Multiple Sclerosis) หรือโรคปลอกประสาทเสื่อม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแข็งและกล้ามเนื้อหดเกร็งจนยาแก้ปวดไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงและปวดแบบเรื้อรัง แต่การใช้สารสกัด THC และ CBD จากพืชกัญชากับผู้ป่วยพบว่าช่วยลดอาการปวดได้จริง ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังไม่พบผลข้างเคียงจากการใช้ยา รับรองโดยงานวิจัยจากประเทศอังกฤษ ประเทศแคนาดา และประเทศสหรัฐอเมริกา

งานวิจัยจากพืชกัญชา

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจากพืชกัญชาที่กำลังอยู่ในห้องทดลองอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยเกี่ยวการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ การวิจัยเกี่ยวกับโรคทางสมอง และงานวิจัยเกี่ยวกับผู้ป่วยด้านจิตเวช ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาตัวยาใหม่ ๆ ออกมาเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพร่างกายโดยรวมที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน